กาบมะพร้าวโครงการคนละครึ่ง

โครงการขนกาบมะพร้าว “คนละครึ่ง” กะทิ เป็นวัตถุดิบหลักที่ขาดไม่ได้ในอาหารไทยหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรือของหวาน ความหอมมันของกะทิทำให้อาหารมีรสชาติที่กลมกล่อมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่แกงกะทิต่างๆ เช่น แกงเขียวหวาน แกงพะแนง หรือแม้แต่เมนูของหวานอย่างขนมชั้น ขนมหม้อแกง  และลอดช่อง ก็ล้วนใช้กะทิเป็นส่วนผสมหลักที่ทำให้อาหารหวานอร่อยและมีความมันนุ่มลิ้น กะทินั้นเกิดมาจากมะพร้าวขูด ซึ่งกระบวนการทำมะพร้าวขูดขายนั้นเริ่มต้นจากการปอกเปลือกมะพร้าวและขูดเนื้อออกด้วยเครื่องขูดมะพร้าว เปลือกมะพร้าวคือส่วนหุ้มผลมะพร้าวทั้งหมด ซึ่งแบ่งออกเป็นขั้นๆ เจ้าเปลือกมะพร้าว (ส่วนใหญ่ผู้คนมักเรียกว่ากาบมะพร้าว)   หลังการผลิตมะพร้าวฃูดขาย ก็มักจะถูกนำไปทิ้งให้เป็นขยะ  ตามตลาดในกรุงเทพฯ ก็จะใส่ถุงดำเป็นขยะแล้วให้ถขยะมารับไป  ซึ่งตามจริงแล้ว กาบมะพร้าวสับ ไม่ใช่แค่ของเหลือใช้จากอุตสาหกรรม แต่ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มคุณภาพดิน และช่วยให้พืชของเราเติบโตอย่างแข็งแรง ที่บางคล้านั้นการมีการทำมะพร้าวขูดขายกันอย่างแพร่หลาย  ทำให้เกิดขยะกาบมะพร้าวขึ้น  โดยผู้ผลิตมะพร้าวขูดขายก็นำขยะเปลือกมะพร้าวนี้ไปกองทิ้งๆ ไว้ข้างๆ บ้านที่ทำมะพร้าวขูด  และสะสมกันเป็นกองขนาดใหญ่ (ผจกฯ ชาติเรียกว่า กองกันเป็นภูเขา)  และหากมีผู้ต้องการจะใช้กาบมะพร้าวเหล่านี้ก็สามารถมานำไปใช้ได้ตามต้องการโดยแจกให้ฟรีๆ ไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด ผจก.พี่ชาติก็ได้ไปสอบถามกับเจ้าของกิจการมะพร้าวขูด (หรือเรียกว่าเป็นเจ้าของกองขยะกาบมะพร้าวก็ได้) ได้ความว่า  มีเจ้าของรถบรรทุกที่เสนอตัวขนเจ้าขยะกาบมะพร้าวนี้ไปทิ้งโดยคิดค่าน้ำมันเที่ยวละ  ๕๐๐ บาท รวมขนขึ้นรถบรรทุก  ๖ ล้อโดยรถแมคโคร และขับไปทิ้ง ทั้งนี้รวมค่าแรงคนขับด้วย พอ อ.น.สพ.ธานินทร์ หัวหน้าโครงการสวนป่าบางคล้าอะโกร ทราบเรื่องว่ามีบริการโลจิสติกส์ขนกาบมะพร้าวนี้ ก็เสนอแนวคิดเดียวกันกับโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลที่มีการร่วมชำระ (Co-Pay)Co-pay หรือ Co-payment .ในเรื่องขนถ่ายกาบมะพร้าวฯ นี้ คือ การร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าบริการขนถ่ายกาบมะพร้าวที่กองเป็นภูเขานั่นเอง  โดยโครงการบางคล้าอะโกรยินดีร่วมสนับสนุนค่าขนฯ เที่ยวละครึ่งหนึ่ง คือ เที่ยวละ 250.- บาท ตามแนวทางของคนใจนักเลงที่…”กล้าได้ก็ต้องกล้าเสีย ไม่ใช่กล้าได้แต่กลัวเสีย”  โดยมอบหมายให้ผจก.โครงการไปลองเจรจาเสนอแนวคิด “คนละครึ่ง” นี้ให้เจ้าของกิจการมะพร้าวขูดพิจารณา เมื่อ ผจก.พี่ชาติไปเจรจาเสนอแนวคิดนี้ให้เจ้าของกิจการมะพร้าวขูดผู้สร้างกองกาบมะพร้าว ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะถือว่า “Win-Win” ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายผู้ผลิตมะพร้าวขูดก็ไ้ด้ระบายกาบมะพร้าว  ฝ่่ายเราก็ได้กาบมะพร้าวมาใช้ในโครงการ โดยประเดิมโครงการก่อน 10 เที่ยว โดยเฉพาะโครงการดินพร้อมปลูก “ดินศุภโชค” หนึ่งในโครงการย่อยของบางล้าอะโกร ซึ่งโครงการย่อยนี้จะทำการผลิตดินปลูกต้นไม้โดยนำส่วนผสมหลักคือ หน้าดินร่วน หรือ ดินร่วน มาผสมกับวัสดุปรับปรุงดิน เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก แหนแดง แกลบเก่า  แกลบเผา และขุยมะพร้าว เพื่อเพิ่มธาตุอาหารและปรับปรุงโครงสร้างดินให้ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี และกักเก็บความชื้นได้ โดยมีแผนที่จะจัดจำหน่ายในบริเวณอำเภอบางคล้าและพิ้นที่ใกล้เคียง  และขายออนไลน์ ประโยชน์ของกาบมะพร้าวที่มีประโยชน์ต่อดิน1. ช่วยเพิ่มความร่วนซุย2. ช่วยกักเก็บความชื้นในดิน3. เป็นแหล่งอินทรียวัตถุที่ดี4. ปรับสมดุลอุณหภูมิในดิน5. ช่วยลดการชะล้างหน้าดิน จากบทเรียนที่ได้รับ หรือ การถอดบทเรียนจากโครงการ “โลจิสติกส์กาบมะพร้าว” หรือ “lesson learned” ซึ่งหมายถึงความรู้และข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์ในด้านดีเพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานในอนาคต คือ การนำ 7 อุปนิสัยสำหรับผู้มีประสิทธิผลสูง มาใช้ คือ อุปนิสัยแรกที่ต้องมีเมื่อทำงานร่วมกับผู้อื่น คือ อุปนิสัยที่ 4 “คิดแบบชนะ-ชนะ” (Think Win-Win) คือการมีทัศนคติที่มุ่งสร้างผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อว่าความสำเร็จของคนอื่นไม่ได้หมายถึงความล้มเหลวของตนเอง เป็นนิสัยที่เน้นความยุติธรรม ความใจกว้าง และการมองว่าทุกสิ่งมีมากพอสำหรับทุกคน การคิดแบบนี้ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจและความร่วมมือ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันที่เอาชนะเพียงฝ่ายเดียว แนวคิดแบบชนะ – ชนะ เป็นแนวคิดในการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน ให้ความร่วมมือกัน มีข้อตกลงหรือการแก้ปัญหาต่าง ๆ เป็นไปเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ ไม่ใช่การแข่งขันชิงดีชิงเด่นกัน จึงเป็นเรื่องของทัศนคติเชิงบวกในการทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น (Winning Mindset).

กาบมะพร้าวโครงการคนละครึ่ง Read More »